Jack Daniel's Fire

Everyday we make it, 

We’ll make it the best we can” 

มร.จิมมี่ เบดฟอร์ด (Jimmy Bedford) นักปรุงวิสกี้ (Master Distiller) จากโรงกลั่น แจ็ค แดเนียลส์ (Jack Daniel’s Distillery) บอกกับทุกคนในการเดินทางมาเมืองไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับย้ำว่านี่ไม่ใช่คำพูดลอย ๆ เพราะเป็นปรัชญาที่ทีมงานแจ็ค แดเนียลส์ ต้องยึดถือยึดมั่นอย่างเคร่งครัดในฐานะ เทนเนสซี่ วิสกี้ (Tennessee Whiskey) 

สัปดาห์นี้ขอเปลี่ยนสีสันและบรรยากาศ มาเป็นเรื่องราวของวิสกี้บ้าง แต่ไม่ใช้วิสกี้ธรรมดา แต่เป็น เทนเนสซี่ วิสกี้ ซึ่งในเมืองไทยน่าจะมีขายเพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้นคือ แจ็ค แดเนียลส์ ที่หลาย ๆ คนชอบเรียกว่า ลุงแจ็ค นั่นเอง 

พูดถึง “แจ็ค แดเนียลส์” คนไทยส่วนใหญ่ยังเหมาเข้าใจว่าเป็น เบอร์เบิน ด้วยความที่เคยเรียนตามตำราว่า อเมริกันวิสกี้ก็คือเบอร์เบิน แต่ที่ส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เคยสังเกตก็คือคำว่า เทนเนสซี่ วิสกี้ (Tennessee Whiskey) ในฉลากข้างขวด ขณะที่บางคนอย่างที่บอกคือยังคลุมเครือว่า แจ็ค แดเนียลส์ นั้น จะเป็นวิสกี้ก็ไม่ใช่ เป็นเบอร์เบินก็ไม่เชิง 

อะไรไม่ว่าแต่ถ้าเป็น แจ็ค แดเนียลส์ โอลด์ นัมเบอร์ 7 แบล็ค เลเบิ้ล (Jack Daniel's Old No. 7 Black Label) Jack Fire นั้นเป็นวิสกี้แน่นอน แต่เป็น "เทนเนสซี่ วิสกี้" ซึ่งมีกฎหมายรองรับอย่างเป็นทางการ ใครมี แจ็ค แดเนียลส์ อยู่ข้าง ๆ ลองสังเกตข้างขวดก็ได้ 

แจ็ค แดเนียล ผู้ก่อตั้งนั้น มีชื่อเต็มว่า เจสเปอร์ นิวตัน “แจ็ค” แดเนียล” (Jasper Newton "Jack" Daniel) เป็นลูก 1 ใน 13 คน ของครอบครัวแดเนียล เกิดเมื่อปี ค.ศ.1850 เรียนรู้กระบวนการกลั่นเหล้าอยู่หลายปี กระทั่งปี 1866 จึงตั้งโรงกลั่นครั้งแรก และเสียชีวิตในปี 1911 โดยไม่ได้แต่งงาน และยกมรดกโรงกลั่นเหล้าให้กับหลานชาย 

ส่วน จิมมี่ เบดฟอร์ด เติบโตในฟาร์มที่อยู่ห่างจากเมืองลินช์เบิร์ก (Lynchburg) ประมาณ 2 ไมล์ มีพลเมืองเพียง 361 คน ก่อนจะมาทำงานในโรงกลั่นแจ็ค แดเนียลส์ ในปี 1968 นั้น นอกจากเขาจะเป็นนักปรุงวิสกี้แล้วยังเป็นผู้ควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน รวมทั้งเป็นคนชิมเพื่อให้รสชาติได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เขาเป็นนักปรุงคนที่ 6 ในระยะเวลา 130 ปี ของโรงกลั่นแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านั้นคือ แจ็ค แดเนียล (Jack Daniel) ที่เป็นเจ้าของด้วย, เจส ม็อทโลว์ (Jess Motlow), เลม โทลเล่ย์ (Lem Tolley), เจส แกมเบิล (Jess Gamble) และแฟรงค์ โบโบ้ (Frank Bobo) 

กระบวนการผลิต Jack Daniel’s Tennessee Whiskey นั้นมีขั้นตอนการผลิตในรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ทำให้ Jack Daniel’s มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยแบ่งเป็นกระบวนการสำคัญ 4 ประการ คือ 

1 การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใช้น้ำจากธรรมชาติจากแหล่งน้ำบริสุทธิ์จากลำธารใต้ดินในเมืองลินช์เบิร์ก (Lynchburg) รัฐเทนเนสซี ที่มีอุณหภูมิคงที่ 13 องศาเซลเซียส และปราศจากธาตุเหล็กเพราะธาตุเหล็กจะส่งผลเสียต่อรสชาติของวิสกี้ แล้วนำมาปรุงกับธัญพืชธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด ข้าวไรน์ ข้าวบาร์เลย์ เติมยีสต์ นำไปหมักรวมกันแล้วกลั่น 2 ครั้ง 

2. กระบวนการกรองด้วยถ่าน (Charcoal Mellowing) หลังจากกลั่น 2 ครั้งแล้ว จะนำไปผ่านกรรมวิธีกรองด้วยถ่าน (Charcoal Mellowing) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในการผลิต ถ้าไม่มีความอดทนหรือสายป่านด้านปัจจัยไม่ถึงคงทำไม่ได้ โดยนำไม้ชูการ์เมเปิ้ล มาเผาจนได้ถ่านไม้ที่มีความหอม แล้วนำมาบรรจุลงในถังที่มีความสูง 10 ฟุต จากนั้นนำวิสกี้มากรองผ่านถ่านไม้อย่างช้า ๆ ทีละหยด ๆ เพื่อให้ได้วิสกี้รสชาตินุ่มละมุน กระบวนการนี้เองที่ทำให้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกากำหนดให้ Jack Daniel’s เป็น เทนเนสซี่ วิสกี้ (Tennessee Whiskey) ไม่ใช่เบอร์เบิน (Bourbon) 

3. การบ่มด้วยถังใหม่ใช้ครั้งเดียว เมื่อวิสกี้ผ่านกระบวนการ Charcoal Mellowing แล้วจึงบรรจุลงถังไม้โอ๊ก (American White Oak) ซึ่งลนภายในถังไม้ด้วยเปลวไฟ เพื่อให้วิสกี้ไหลผ่านเนื้อไม้เข้าออก ตามการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโดยรอบ ทำให้ได้กลิ่นหอมเหมือนรมควัน และสีเหลืองเข้มดุจอำพัน จากนั้นจะนำเข้าสู่โรงบ่ม ซึ่งจะใช้ระยะเวลาการบ่มขั้นต่ำ 4 ปี ก่อนจะบรรจุขวดทรงสี่เหลี่ยมรูปแบบดั้งเดิม ที่ออกแบบโดยนายแจ็ค แดเนียล ฉลากสีดำตัวหนังสือสีขาว และฝาขวดสีดำ 

ปัจจุบัน แจ็ค แดเนียลส์ มีวิสกี้ที่กำลังบ่มอยู่ในโกดัง 73 โกดัง จำนวน 20,300 กว่าถัง และถังไม้โอ๊กนี้จะใช้บ่มเพียงครั้งเดียว จากนั้นจะส่งไปขายต่อให้กับบริษัทผลิตวิสกี้ยี่ห้อต่าง ๆ ในประเทศสกอตแลนด์ และประเทศอื่นที่ผลิตเชอร์รี่ และพอร์ต 

4 การยึดมั่นในปรัชญาการผลิตวิสกี้ของแจ็ค แดเนียล พนักงานทุกคนจะยึดมั่นในปรัชญาการผลิตวิสกี้ของแจ็ค แดเนียล ผู้ก่อตั้ง ที่จะผลิตวิสกี้ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก ผู้บริหารและพนักงานทุกคนตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ต่างให้ความสำคัญกับการผลิตวิสกี้ที่มีรสชาติมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ตั้งแต่มีกำลังการผลิตเพียงไม่กี่ถัง จนถึงวันนี้ครองตำแหน่งวิสกี้ที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เฉลี่ยปีละ 7.6 ล้านลัง แต่ปีที่แล้วขายไปกว่า 10 ล้านลัง 

แจ็ค แดเนียลส์ เคยได้รับรางวัลเหรียญทองนานาชาติมาแล้วถึง 7 รางวัล หนึ่งในจำนวนนั้นแจ็ค แดเนียล เจ้าของเป็นผู้รับรางวัลด้วยตนเองในปี 1904 ในงาน World Fair ที่เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ในฐานะ วิสกี้เยี่ยมที่สุดในโลก (World’s Best Whiskey) ปัจจุบันวิสกี้ 46% ส่งไปขายกว่า 110 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย 

การดื่มลุงแจ็ค สามารถทำได้หลายวิธีตามความชอบของแต่ละบุคคล เช่น ผสมกับโซดา ตามวิถีนักดื่มเมืองไทย, ผสมโคคา-โคลา, ผสมน้ำ, ออน เดอะ ร็อก, ดื่มเพียว ๆ หรือผสมเป็นค็อกเทลบางสูตร เป็นต้น 

โปรดจำไว้ว่า เบอร์เบิน คือ อเมริกันวิสกี้ แต่ เทนเนสซี่ วิสกี้ อย่างแจ็ค แดเนียลส์ ไม่ใช่เบอร์เบิน 

เครดิต อาจารย์ ธวัชชัย กูรูเหล้าและไวน์

สั่ง Jack Daniel's Fire กับทางร้านรับรองว่า ขายราคาถูก ไม่แพง ส่งได้ทั่วไทยครับ

สอบถามสินค้า

Line mamaah